Friday, July 31, 2009

Windows 7 โดนแฮคเรียบร้อยแล้ว?


ไมโครซอฟท์ตอบโต้ข่าวลือที่ออกมาว่า ระบบ Activation ที่ใช้กระตุ้นการทำงานของ Windows 7 ผ่านออนไลน์ ถูกแฮคเรียบร้อยโรงเรียนจีนไปแล้ว โดยทางบริษัทออกมาเตือนผู้บริโภคว่่า ไม่ควรใช้ระบบปฏิบัติการเถื่อน นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังกล่าวอย่างพอใจว่า รู้สึกแฮปปี้ที่ผู้ใช้ต้องการติดตั้ง Windows 7 (แม้จะถูกแฮค?)
หลังจากไมโครซอฟท์ได้ส่งมอบ Windows 7 RTM ได้ไม่นาน ก็มีรายงานข่าวออกมาว่า มันถูก crack เรียบร้อยแล้ว โดยระบบที่ใช้ในการทดลองแคร็กจะเป็น Windows 7 Ultimate OEM DVD.ISO ทำงานบนคอมพิวเตอร์ Lenovo ซึ่งมีการเปิดเผยออกมาในโฟรัมบนเว็บไซต์ในจีน ทั้งนี้แฮคเกอร์จะใช้ .ISO ที่หลุดออกมา เพื่อดึงโพรดักส์คีย์ OEM-SLP และใบรับรองดิจิตอลสำหรับการทำ activation ผ่านทาง boot.win

กล้องวิดีโอไฮเดฟฯ"ถ่ายง่าย-สะดวกพก"

ก่อนพักเที่ยงเรามาอัพเดตแก็ดเจ็ต (Gadget) ใหม่ๆ กันดีกว่า เนื่องจากการแชร์วิดีโอในโซเชียลเน็ตเวิร์กกำลังได้รับความนิยม นอกจากมือถือแล้ว กล้องถ่ายวิดีโอสะดวกพก (pocket cam) เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ และด้วยความที่มันออกแบบมา เพื่อใช้กับงานนี้โดยเฉพาะ ไม่ใช่ฟังก์ชันแถมไปกับแก็ดเจ็ตอื่นๆ ดังนั้นสิ่งที่คุณจะได้รับจากล้องพวกนี้ก็คือ คุณภาพของวิดีโอและความง่ายในการใช้งาน


Kodak Zi8กล้องวิดีโอสะดวกพกรุ่นใหม่ล่าสุดจากโกดัก ซึ่งหากเทียบกับ Flip Ultra HD แล้ว กล้องวิดีโอพกพา Zi8 จะมีคุณสมบัติการทำงานที่เหนือกว่าหลายด้านด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การบันทึกวิดีโอไฮเดฟฯ 1080p ระบบลดการสั่นไหวขณะถ่าย (electronic image stabilizer) และช่องใส่การ์ดหน่วยความจำ SDHC

ตัวเครื่องดีไซน์สวยงามจับถนัดมือ มีสองสีให้เลือกคือ แดง และน้ำเงิน ด้านข้างมีช่องต่อไมค์ภายนอก สามารถถ่ายภาพนิ่งที่ความละเอียดสูงสุดถึง 5 ล้านพิกเซล มีระบบติดตามใบหน้า (face tracking) และจุดแข็งที่น่าสนใจสำหรับมือใหม่ก็คือ Kodak Zi8 จะสามารถให้รายละเอียดของสีที่ถูกต้องแม้จะถ่ายในที่แสงน้อยก็ตาม ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่พบในกล้องวิดีโอพกพา (โดยเฉพาะ Flip UltraHD ที่ถ่ายได้เพียง 720p แถมไม่มีสล็อต SD อีกต่างหาก) สนนราคาของ Kodak Zi8 อยู่ที่ 180 เหรียญฯ (ประมาณ 6,500 บาท)



ข่าวจาก arip.co.th

คอนเฟิร์ม"อะตอม"รุ่นใหม่ปลายปีนี้

รายงานข่าวจากซีเน็ตระบุว่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา อินเทล (Intel) ยืนยันการออกชิปอะตอม (Atom) ตรงตามเวลาที่กำหนดในช่วงปลายปีนี้ โดยปฏิเสธข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่า การผลิตชิปดังกล่าวจะเลื่อนออกไปจนถึงปี 2010

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมามีข่าวลือว่า ทางอินเทลจะเลื่อนการออกชิปอะตอมรุ่นใหม่ Pine Trail-M ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่รวมเอาโพรเซสเซอร์กราฟิก และส่วนควบคุมหน่วยความจำเข้าไปอยู่ในโพรเซสเซอร์อะตอม ซึ่งข่าวดังกล่าวไม่ถูกต้อง โดย Mooly Eden ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มแพลตฟอร์มโมบายของอินเทล พูดถึงประเด็นนี้ในระหว่างงานที่จัดขึ้นที่ซานฟรานซิสโก
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้บอกว่า แพลตฟอร์มดังกล่าวที่จะวางตลาดปีนี้นั้น เป็นช่วงใดกันแน่ เพียงแต่ให้ข้อมูลว่า อินเทลจะแสดงต้นแบบเน็ตบุ๊กที่ใช้ Pine Trail-M ในงาน IDF ที่จะจัดขึ้นในช่วงเดือนกันยายน ศกนี้ ส่วนสาเหตุที่มีข่าวลือออกมา น่าจะมาจากการที่ Acer และ Asustek ได้เลื่อนการออกเน็ตบุ๊กรุ่นใหม่เป็นปีหน้า สำหรับเป้าหมายของการออกแบบเน็ตบุ๊กคือ การทำให้คอมพิวเตอร์พกพามีขนาดเล็ก ราคาถูก และใช้สำหรับงานทั่วไปอย่างการท่องเน็ต และเวิร์ดโพรเซสเซอร์ ซึง Pine Trail จะช่วยเพิ่มสมรรถนะการทำงานให้กับเน็ตบุ๊ก อีกทั้งยังประหยัดพลังงานมากกว่า (เร็วขึ้น และใช้งานได้นานขึ้น)


ทางด้านอินเทลอธิบายเพิ่มเติมว่า การที่ส่วนควบคุมหน่วยความจำเข้าไปอยู่ในชิปจะช่วยให้การสื่อสารระหว่างโพรเซสเซอร์กับหน่วยความจำเร็วขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากลดการหน่วงเวลาที่ต้องเสียไปในการสื่อสารกับชิปหน่วยความจำ อีกทั้งยังทำให้การประมวลผลมัลติมีเดียเร็วขึ้น เนื่องจากไม่มีข้อจำกัดในเรื่องแบนด์วิดธ์ที่โพรเซสเซอร์ต้องใช้สื่อสารกับองค์ประกอบอื่นๆ โดยแพลตฟอร์ม Atom บนเน็ตบุ๊กในปัจจุบัน ชิปกราฟิก และการจัดการหน่วยความจำแยกกันคนละตัว Pine Trail ยังช่วยให้ชิปมีขนาดเล็กลงไปด้วยเมื่อเทียบกับสถาปัตยกรรมเดิม ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตพีซีสามารถออกแบบเน็ตบุ๊กที่บางลงได้อีก

ข่าวจาก arip.co.th

หลุด!!!คู่มืออีบุ๊กโซนี่รุ่นใหม่ว่อนบนเน็ต

ข่าวลือเกี่ยวกับเครื่องอ่านอีบุ๊กรุ่นใหม่ของโซนี่ (Sony) ที่คาดว่าจะออกในช่วงเดือนสิงหาคมมีความชัดเจนมากขึ้น เมื่อเว็บบอร์ด Sony Insider เปิดเผยว่า "พบคู่มือของ Sony Reader เครื่องอ่านอีบุ๊กที่ยังไม่ได้มีการประกาศออกมา 2 รุ่นด้วยกันคือ PRS-300 และ PRS-600"
ทั้งนี้ลิงค์ที่ปรากฎในเว็บยังสามารถโหลดคู่มือที่เป็นไฟล์ PDF จากโซนี่ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ทางโซนี่จะดึงหน้าเว็บนั้นออกไปแล้ว แต่ในเว็บบอร์ดดังกล่าวได้เก็บไฟล์ทั้งสองไว้ก่อนที่หน้าเว็บจะอันตรธานหายไป (สามารถดาวน์โหลดไฟล์ได้ที่นี่)


ข้อมูลในไฟล์คู่มือระบุว่า Sony Reader รุ่น PRS-300 จะมีขนาดของหน้าจอ 5 นิ้ว มาพร้อมกับหน่วยความจำภายใน 440MB โดยไม่มีช่องใส่การ์ดหน่วยความจำเพิ่มเติม ในขณะที่ PRS-600 จะมีขนาดของเครื่องใหญ่กว่า โดยหน้าจอจะเป็นระบบสัมผัสขนาด 6 นิ้ว สามารถเล่นไฟล์เสียง หรือออดิโอบุ๊กได้ หน่วยความจำภายในเครื่อง 440MB และมีช่องเพิ่มเติมการ์ดหน่วยความจำ MS และ SD โดยมีสามสีให้เลือกคือ แดง ดำ และเงิน

อย่างไรก็ตาม ในคู่มือที่หลุดออกมาได้พูดถึงฟังก์ชัน Wi-Fi หรือการเพิ่มแสงสว่างจากภายในเครื่อง แต่มันเป็นไปได้ว่า โซนี่อาจจะเสนอเป็นออปชันไร้สายให้กับลูกค้าที่ต้องการ สำหรับราคาโดยประมาณ ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า PRS-300 น่าจะมีราคาอยู่ที่ 199 เหรียญฯ (ประมาณ 7,200 บาท) ส่วนรุ่น PRS-600 อยู่ที่ 299 เหรียญฯ (ประมาณ 11,000 บาท) กระแสข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังมีประเด็นของความเป็นไปได้เพิ่มเติมอีกด้วย นั่นคือ ล่าสุดโซนี่ได้จับมือกับกูเกิ้ล (Google) ในการเข้าถึงบริการร้านอีบุ๊กทำให้จำนวนหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่มีให้เลือกผ่าน Sony Reader เพิ่มขึ้นมากกว่า 1,200,000 รายการแล้ว โดยแบ่งเป็นอีบุ๊กที่ให้บริการฟรีจากกูเกิ้ลประมาณห้าแสนรายการ รวมกับในแคตะล็อกของโซนี่อีก 700,000 ไตเติ้ล ผลทำให้โซนี่มีอีบุ๊กให้บริการมากที่สุดในโลก
ข่าวจาก arip.co.th

ลาก่อน..."Windows Mobile" ???

รายงานข่าวที่อาจจะทำให้หลายคนประหลาดใจ แต่นี่เป็นเรื่องจริง เนื่องจากล่าสุด ไมโครซอฟท์เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีแผนที่จะเลิกใช้แบรนด์ Windows Mobile ซึ่งนั่นหมายความว่า เราจะไม่ได้ยินชื่อ Windows Mobile 6.5 หรือ Windows Mobile 7 อีกต่อไป...แต่จะรู้จักในชื่อเรียกใหม่แทนนั่นคือ... Windows Phone
สำหรับการเปลี่ยนชื่อเรียกครั้งนี้จะถูกนำไปใช้กับแพลตฟอร์ม WinMo ในอดีตด้วย ซึ่งส่งผลให้ระบบปฏิบัติการ Windows Mobile 6.x (6.1, 6.5 และ 7) ถูกเรียกใหม่เป็น Windows Phone แทน โดยผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า ไมโครซอฟท์อาจต้องการทิ้งชื่อ Windows Mobile ที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่มีประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีนักกับแบรนด์นี้ ในขณะเดียวกัน ไมโครซอฟท์ก็ต้องการสร้างภาพต่อเนื่องในใจผู้บริโภคให้กับแบรนด์ Windows โดยเมื่อผู้ใช้เลิกใช้งาน Windows PC ก็จะได้สัมผัสกับ Windows Phone ที่ให้ประสบการณ์ที่เหมือนกัน และลดความซับซ้อนลง ประมาณว่า ใช้พีซีก็วินโดวส์ ใช้มือถือก็วินโดวส์


นอกจากนี้ทางไมโครซอฟท์ยังตั้งเป้าที่จะทำให้แพลตฟอร์มใหม่มีการทำงานที่ฉลาดขึ้น อย่างเช่น การมีระบบแบ็คอัพ SMS ทั้งหมด การจัดการคอนเท็นต์ของอีเมล์ การยกเลิกการทำงานของมือถือจากระยะไกล และการเชื่อมตลาดแอพพลิเคชันเข้ากับมือถือ (แบบเดียวกับ iTunes) ด้วย Market Place

ข่าวจาก arip.co.th