Friday, July 31, 2009

Windows 7 โดนแฮคเรียบร้อยแล้ว?


ไมโครซอฟท์ตอบโต้ข่าวลือที่ออกมาว่า ระบบ Activation ที่ใช้กระตุ้นการทำงานของ Windows 7 ผ่านออนไลน์ ถูกแฮคเรียบร้อยโรงเรียนจีนไปแล้ว โดยทางบริษัทออกมาเตือนผู้บริโภคว่่า ไม่ควรใช้ระบบปฏิบัติการเถื่อน นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังกล่าวอย่างพอใจว่า รู้สึกแฮปปี้ที่ผู้ใช้ต้องการติดตั้ง Windows 7 (แม้จะถูกแฮค?)
หลังจากไมโครซอฟท์ได้ส่งมอบ Windows 7 RTM ได้ไม่นาน ก็มีรายงานข่าวออกมาว่า มันถูก crack เรียบร้อยแล้ว โดยระบบที่ใช้ในการทดลองแคร็กจะเป็น Windows 7 Ultimate OEM DVD.ISO ทำงานบนคอมพิวเตอร์ Lenovo ซึ่งมีการเปิดเผยออกมาในโฟรัมบนเว็บไซต์ในจีน ทั้งนี้แฮคเกอร์จะใช้ .ISO ที่หลุดออกมา เพื่อดึงโพรดักส์คีย์ OEM-SLP และใบรับรองดิจิตอลสำหรับการทำ activation ผ่านทาง boot.win

กล้องวิดีโอไฮเดฟฯ"ถ่ายง่าย-สะดวกพก"

ก่อนพักเที่ยงเรามาอัพเดตแก็ดเจ็ต (Gadget) ใหม่ๆ กันดีกว่า เนื่องจากการแชร์วิดีโอในโซเชียลเน็ตเวิร์กกำลังได้รับความนิยม นอกจากมือถือแล้ว กล้องถ่ายวิดีโอสะดวกพก (pocket cam) เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ และด้วยความที่มันออกแบบมา เพื่อใช้กับงานนี้โดยเฉพาะ ไม่ใช่ฟังก์ชันแถมไปกับแก็ดเจ็ตอื่นๆ ดังนั้นสิ่งที่คุณจะได้รับจากล้องพวกนี้ก็คือ คุณภาพของวิดีโอและความง่ายในการใช้งาน


Kodak Zi8กล้องวิดีโอสะดวกพกรุ่นใหม่ล่าสุดจากโกดัก ซึ่งหากเทียบกับ Flip Ultra HD แล้ว กล้องวิดีโอพกพา Zi8 จะมีคุณสมบัติการทำงานที่เหนือกว่าหลายด้านด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การบันทึกวิดีโอไฮเดฟฯ 1080p ระบบลดการสั่นไหวขณะถ่าย (electronic image stabilizer) และช่องใส่การ์ดหน่วยความจำ SDHC

ตัวเครื่องดีไซน์สวยงามจับถนัดมือ มีสองสีให้เลือกคือ แดง และน้ำเงิน ด้านข้างมีช่องต่อไมค์ภายนอก สามารถถ่ายภาพนิ่งที่ความละเอียดสูงสุดถึง 5 ล้านพิกเซล มีระบบติดตามใบหน้า (face tracking) และจุดแข็งที่น่าสนใจสำหรับมือใหม่ก็คือ Kodak Zi8 จะสามารถให้รายละเอียดของสีที่ถูกต้องแม้จะถ่ายในที่แสงน้อยก็ตาม ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่พบในกล้องวิดีโอพกพา (โดยเฉพาะ Flip UltraHD ที่ถ่ายได้เพียง 720p แถมไม่มีสล็อต SD อีกต่างหาก) สนนราคาของ Kodak Zi8 อยู่ที่ 180 เหรียญฯ (ประมาณ 6,500 บาท)



ข่าวจาก arip.co.th

คอนเฟิร์ม"อะตอม"รุ่นใหม่ปลายปีนี้

รายงานข่าวจากซีเน็ตระบุว่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา อินเทล (Intel) ยืนยันการออกชิปอะตอม (Atom) ตรงตามเวลาที่กำหนดในช่วงปลายปีนี้ โดยปฏิเสธข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่า การผลิตชิปดังกล่าวจะเลื่อนออกไปจนถึงปี 2010

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมามีข่าวลือว่า ทางอินเทลจะเลื่อนการออกชิปอะตอมรุ่นใหม่ Pine Trail-M ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่รวมเอาโพรเซสเซอร์กราฟิก และส่วนควบคุมหน่วยความจำเข้าไปอยู่ในโพรเซสเซอร์อะตอม ซึ่งข่าวดังกล่าวไม่ถูกต้อง โดย Mooly Eden ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มแพลตฟอร์มโมบายของอินเทล พูดถึงประเด็นนี้ในระหว่างงานที่จัดขึ้นที่ซานฟรานซิสโก
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้บอกว่า แพลตฟอร์มดังกล่าวที่จะวางตลาดปีนี้นั้น เป็นช่วงใดกันแน่ เพียงแต่ให้ข้อมูลว่า อินเทลจะแสดงต้นแบบเน็ตบุ๊กที่ใช้ Pine Trail-M ในงาน IDF ที่จะจัดขึ้นในช่วงเดือนกันยายน ศกนี้ ส่วนสาเหตุที่มีข่าวลือออกมา น่าจะมาจากการที่ Acer และ Asustek ได้เลื่อนการออกเน็ตบุ๊กรุ่นใหม่เป็นปีหน้า สำหรับเป้าหมายของการออกแบบเน็ตบุ๊กคือ การทำให้คอมพิวเตอร์พกพามีขนาดเล็ก ราคาถูก และใช้สำหรับงานทั่วไปอย่างการท่องเน็ต และเวิร์ดโพรเซสเซอร์ ซึง Pine Trail จะช่วยเพิ่มสมรรถนะการทำงานให้กับเน็ตบุ๊ก อีกทั้งยังประหยัดพลังงานมากกว่า (เร็วขึ้น และใช้งานได้นานขึ้น)


ทางด้านอินเทลอธิบายเพิ่มเติมว่า การที่ส่วนควบคุมหน่วยความจำเข้าไปอยู่ในชิปจะช่วยให้การสื่อสารระหว่างโพรเซสเซอร์กับหน่วยความจำเร็วขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากลดการหน่วงเวลาที่ต้องเสียไปในการสื่อสารกับชิปหน่วยความจำ อีกทั้งยังทำให้การประมวลผลมัลติมีเดียเร็วขึ้น เนื่องจากไม่มีข้อจำกัดในเรื่องแบนด์วิดธ์ที่โพรเซสเซอร์ต้องใช้สื่อสารกับองค์ประกอบอื่นๆ โดยแพลตฟอร์ม Atom บนเน็ตบุ๊กในปัจจุบัน ชิปกราฟิก และการจัดการหน่วยความจำแยกกันคนละตัว Pine Trail ยังช่วยให้ชิปมีขนาดเล็กลงไปด้วยเมื่อเทียบกับสถาปัตยกรรมเดิม ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตพีซีสามารถออกแบบเน็ตบุ๊กที่บางลงได้อีก

ข่าวจาก arip.co.th

หลุด!!!คู่มืออีบุ๊กโซนี่รุ่นใหม่ว่อนบนเน็ต

ข่าวลือเกี่ยวกับเครื่องอ่านอีบุ๊กรุ่นใหม่ของโซนี่ (Sony) ที่คาดว่าจะออกในช่วงเดือนสิงหาคมมีความชัดเจนมากขึ้น เมื่อเว็บบอร์ด Sony Insider เปิดเผยว่า "พบคู่มือของ Sony Reader เครื่องอ่านอีบุ๊กที่ยังไม่ได้มีการประกาศออกมา 2 รุ่นด้วยกันคือ PRS-300 และ PRS-600"
ทั้งนี้ลิงค์ที่ปรากฎในเว็บยังสามารถโหลดคู่มือที่เป็นไฟล์ PDF จากโซนี่ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ทางโซนี่จะดึงหน้าเว็บนั้นออกไปแล้ว แต่ในเว็บบอร์ดดังกล่าวได้เก็บไฟล์ทั้งสองไว้ก่อนที่หน้าเว็บจะอันตรธานหายไป (สามารถดาวน์โหลดไฟล์ได้ที่นี่)


ข้อมูลในไฟล์คู่มือระบุว่า Sony Reader รุ่น PRS-300 จะมีขนาดของหน้าจอ 5 นิ้ว มาพร้อมกับหน่วยความจำภายใน 440MB โดยไม่มีช่องใส่การ์ดหน่วยความจำเพิ่มเติม ในขณะที่ PRS-600 จะมีขนาดของเครื่องใหญ่กว่า โดยหน้าจอจะเป็นระบบสัมผัสขนาด 6 นิ้ว สามารถเล่นไฟล์เสียง หรือออดิโอบุ๊กได้ หน่วยความจำภายในเครื่อง 440MB และมีช่องเพิ่มเติมการ์ดหน่วยความจำ MS และ SD โดยมีสามสีให้เลือกคือ แดง ดำ และเงิน

อย่างไรก็ตาม ในคู่มือที่หลุดออกมาได้พูดถึงฟังก์ชัน Wi-Fi หรือการเพิ่มแสงสว่างจากภายในเครื่อง แต่มันเป็นไปได้ว่า โซนี่อาจจะเสนอเป็นออปชันไร้สายให้กับลูกค้าที่ต้องการ สำหรับราคาโดยประมาณ ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า PRS-300 น่าจะมีราคาอยู่ที่ 199 เหรียญฯ (ประมาณ 7,200 บาท) ส่วนรุ่น PRS-600 อยู่ที่ 299 เหรียญฯ (ประมาณ 11,000 บาท) กระแสข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังมีประเด็นของความเป็นไปได้เพิ่มเติมอีกด้วย นั่นคือ ล่าสุดโซนี่ได้จับมือกับกูเกิ้ล (Google) ในการเข้าถึงบริการร้านอีบุ๊กทำให้จำนวนหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่มีให้เลือกผ่าน Sony Reader เพิ่มขึ้นมากกว่า 1,200,000 รายการแล้ว โดยแบ่งเป็นอีบุ๊กที่ให้บริการฟรีจากกูเกิ้ลประมาณห้าแสนรายการ รวมกับในแคตะล็อกของโซนี่อีก 700,000 ไตเติ้ล ผลทำให้โซนี่มีอีบุ๊กให้บริการมากที่สุดในโลก
ข่าวจาก arip.co.th

ลาก่อน..."Windows Mobile" ???

รายงานข่าวที่อาจจะทำให้หลายคนประหลาดใจ แต่นี่เป็นเรื่องจริง เนื่องจากล่าสุด ไมโครซอฟท์เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีแผนที่จะเลิกใช้แบรนด์ Windows Mobile ซึ่งนั่นหมายความว่า เราจะไม่ได้ยินชื่อ Windows Mobile 6.5 หรือ Windows Mobile 7 อีกต่อไป...แต่จะรู้จักในชื่อเรียกใหม่แทนนั่นคือ... Windows Phone
สำหรับการเปลี่ยนชื่อเรียกครั้งนี้จะถูกนำไปใช้กับแพลตฟอร์ม WinMo ในอดีตด้วย ซึ่งส่งผลให้ระบบปฏิบัติการ Windows Mobile 6.x (6.1, 6.5 และ 7) ถูกเรียกใหม่เป็น Windows Phone แทน โดยผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า ไมโครซอฟท์อาจต้องการทิ้งชื่อ Windows Mobile ที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่มีประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีนักกับแบรนด์นี้ ในขณะเดียวกัน ไมโครซอฟท์ก็ต้องการสร้างภาพต่อเนื่องในใจผู้บริโภคให้กับแบรนด์ Windows โดยเมื่อผู้ใช้เลิกใช้งาน Windows PC ก็จะได้สัมผัสกับ Windows Phone ที่ให้ประสบการณ์ที่เหมือนกัน และลดความซับซ้อนลง ประมาณว่า ใช้พีซีก็วินโดวส์ ใช้มือถือก็วินโดวส์


นอกจากนี้ทางไมโครซอฟท์ยังตั้งเป้าที่จะทำให้แพลตฟอร์มใหม่มีการทำงานที่ฉลาดขึ้น อย่างเช่น การมีระบบแบ็คอัพ SMS ทั้งหมด การจัดการคอนเท็นต์ของอีเมล์ การยกเลิกการทำงานของมือถือจากระยะไกล และการเชื่อมตลาดแอพพลิเคชันเข้ากับมือถือ (แบบเดียวกับ iTunes) ด้วย Market Place

ข่าวจาก arip.co.th

Thursday, July 23, 2009

The NEW Pizza Hut iPhone App

Pizza Hut ออกโปรแกรมสำหรับ iPhone เพื่อทำการสั่งพิซซ่าและพาสต้าและปีกไก่วิง เร็วสนุก
เริ่มใช้งาน ดาวโหลดได้แล้ววันนี้ที่
http://itunes.apple.com/WebObjects/MZStore.woa/wa/viewSoftware?id=321560858&mt=10

แฉ!!!ภัยจากร้านซ่อมคอมพ์ที่คุณต้องรู้

รายงานข่าวจากเว็บไซต์ SkyNews เปิดเผยเรื่องราวที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินข่าวกันมาบ้าง หรือไม่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจกันมากนัก ประเด็นที่ว่านี้ก็คือ มีการตรวจจับได้ว่า ร้านซ่อมคอมพิวเตอร์บางแห่งในกรุงลอนดอนเข้าถึงข้อมูลของเจ้าของเครื่องที่ อยู่ในฮาร์ดดิสก์อย่างผิดกฎหมาย โดยพยายามจะแฮคบัญชีธนาคารออนไลน์จากเครื่องคอมพ์ที่ลูกค้าส่งซ่อม...


หนึ่ง ในกรณีที่เกิดขึ้นก็คือ ข้อมูลอย่างรหัสผ่าน (password) ที่ใช้ในการล็อกอิน เพื่อเข้าใช้บริการออนไลน์บนเว็บไซต์ต่างๆ ตลอดจนภาพถ่ายส่วนตัวในวันหยุด ของลูกค้าได้ถูกก็อปปี้ออกไปใส่ในแฟลชไดรฟ์โดยนักเทคนิคที่เป็นช่างซ่อมของ ทางร้าน ส่วนอีกกรณีหนึ่ง ลูกค้าถูกหลอกให้จ่ายเงิน โดยที่ทางร้านไม่ได้ทำอะไรเลย และข้อผิดพลาดง่ายๆ กลับถูกวินิจฉัยมั่วๆ (แบบว่า ลูกค้าฟังแล้วไม่เข้าใจ) เพื่อให้รู้สึกว่า มันเป็นปัญหาที่ลูกค้าต้องยอมจ่าย เจ้าหน้าที่สืบสวนจากสถาบันมาตรฐานการค้า (Trading Standard Institute) กล่าวว่า เขาถึงกับช็อคไปเลย เมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น
สำหรับ การสืบสวนในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ได้ติดตั้งซอฟต์แวร์เฝ้าระวัง (suveillance software) เข้าไปในโน้ตบุ๊ก ซึ่งมันจะทำงานทุกครั้งที่มีการล็อกอินเข้าไปในเครื่อง โดยที่ผู้ใช้จะไม่ทันระวัง หรือจับสังเกตได้ ทั้งนี้ซอฟต์แวร์ดังกล่าวจะจับภาพกิจกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนหน้าจอ รวมถึงภาพใบหน้าของผู้ใช้ผ่านทางกล้องที่ติดมากับเครื่องแบบเรียลไทม์ ทำให้ฝ่ายสืบสวนสามารถระบุได้ว่า มีใครบ้างที่ยุ่งเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และได้ทำอะไรกับเครื่องคอมพิวเตอร์บ้าง
ทีม งานได้ทำให้เครื่องมีปัญหาในลักษณะที่สามารถตรวจสอบวินิจฉัยได้ง่าย โดยปลดชิปหน่วยความจำที่อยู่ภายในเครื่องให้หลวม ซึ่งทำให้ไม่สามารถโหลด Windows ได้ ซึ่งการแก้ไขให้เป็นปกติก็เพียงแค่กดชิปหน่วยความจำในเครื่องเข้าไปในคอน เน็คเตอร์ให้แน่นก็เป็นอันเรียบร้อย โดยทีมงานได้เลือกร้านซ่อมคอมพ์ไว้ 6 แห่งด้วยกัน แทบทุกร้านวินิจฉัยอาการแบบมั่วๆ หรือไม่ก็เรียกค่าบริการซ่อมแพงเกินกว่าเหตุยกเว้นร้านเดียว
กรณี ของการกระทำผิดที่ร้ายแรงที่สุดก็คือร้านที่ชื่อว่า Revival Computers ในแฮมเมอร์สมิธ ทางฝั่งตะวันตกของกรุงลอนดอน หลังจากที่ทางร้านตรวจพบข้อบกพร่องที่แท้จริง วิศวกรทางร้านโทรกลับมารายงานว่า คอมพิวเตอร์ที่ส่งซ่อมต้องได้รับการเปลี่ยนเมนบอร์ดใหม่ ซึ่งมีราคา 130 ปอนด์ (ประมาณ 7,300 บาท) นอกจากการโก่งค่าซ่อมแบบไร้เหตุผลนี้แล้ว ซอฟต์แวร์เฝ้าระวังที่ติดไปกับเครื่องยังสามารถบันทึกได้ว่า หนึ่งในนักเทคนิคที่ซ่อมเครื่องได้สืบค้นไฟล์ต่างๆ ในฮาร์ดดิสก์ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคล ภาพถ่ายส่วนตัวในวันหยุดของเจ้าของเครื่องดังที่อยู่ในชุดบิกินี่ ซึ่งระหว่างที่แอบเปิดดูไฟล์ต่างๆ เขายังยิ้มอย่างมีความสุข และโชว์ภาพให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นได้ดูด้วย
หลังจากดูภาพอย่างสนุก สนานแล้ว ช่างเทคนิคคนที่สองดึงเครื่องไปดูภาพต่างๆ ที่อยู่ในโฟลเดอร์ที่ระบุชัดเจนว่า "private" (ส่วนตัว) จากนั้นเขาเอาแฟลชไดรฟ์ของตัวเองมาต่อกับโน้ตบุ๊ก เพื่อก็อปปี้ไฟล์ต่างๆ ออกไป รวมถึงพาสเวิร์ด และรูปภาพเข้าไปในโฟลเดอร์ที่มีชื่อว่า "mamma jammas" หนึ่งในไฟล์ที่ถูกก็อปปี้ไปนั้นจะมีไฟล์ข้อความที่จัดเก็บพาสเวิร์ดสำหรับ เข้าไปใช้บริการ Facebook, Hotmail, eBay และบัญชีธนาคาร NatWest เมื่อนักเทคนิคที่เป็นช่างซ่อมพบข้อมูลดังกล่าว เขาไม่รอช้าที่จะเปิดเว็บบราวเซอร์บนโน้ตบุ๊ก และพยายามล็อกอินเข้าไปในบัญชีธนาคารของลูกค้าที่เป็นเจ้าของเครื่องเป็น เวลาประมาณ 5 นาที แต่ก็ไม่สำเร็จ เนื่องจากรายละเอียดของข้อมูลดังกล่าวทางทีมงานได้จัดทำปลอมขึ้นมา ทางร้านปฏิเสธที่จะให้เหตุผลกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับทาง Sky News โดยอ้างไม่ทราบว่ามีข้อกล่าวหาจากการกระทำในลักษณะนี้ด้วย
กล่าว โดยสรุปก็ํคือ การส่งเครื่องให้ซ่องซ่อมคอมพ์อาจจะเจอกับสิ่งที่ไม่คาดฝัน หากทางร้านมีช่องซ่อมที่ไร้จรรยาบรรณ โดยความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับเจ้าของเครื่องมีตั้งแต่เบาสุด คือได้รับคำตอบในการแก้ปัญหาที่มั่วนิ่ม การเก็บค่าบริการซ่อมเกินความเป็นจริง และทีร้ายแรงสุดคือขโมยข้อมูล ตลอดจนพยายามแฮคฯ ในจำนวน 6 ร้านซ่อม มีเพียงแค่ร้านเดียวที่แก้ปัญหาให้โดยไม่คิดค่าบริการอีกด้วย


ข่าวจาก arip.co.th

Asus UX50V Notebook ตัวบางที่ดีไซน์สุดหรูจาก Asus

ความแรงของ Hardware ที่ทรงพลังกับ Asus UX50V ที่มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ใครมองเห็นแล้วก็รู้สึกได้ถึงความหรูของตัวเครื่อง ที่เงามันและหน้าจอกว้าง



สวัสดีครับ พี่น้องชาว techXcite ทุก ๆ ท่านเจอกันอีกแล้วนะครับกับบทความรีวิว Notebook ในครั้งนี้ผมก็มี Notebook ที่เกาะติดเทรน Notebook ที่บางเบา ถ้ายังจำกันได้ผมเคยลงบทความ จากทาง Intel ที่เคยแถลงข่าวเมื่อครั้งก่อน (อ่านข้อมูลย้อนหลังได้ที่นี่..) มาในครั้งนี้ Asus ก็ตอบรับกระแสดีไซน์สุดบาง (Ultra-Thin) และความแรงของ Hardware ที่ทรงพลังกับ Asus UX50V ที่มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ใครมองเห็นแล้วก็รู้สึกได้ถึงความหรูของตัวเครื่อง ที่เงามันและหน้าจอกว้าง และยังประหยัดพลังงานในการใช้งานอีกด้วย
Body&Design


การออกแบบตัวเครื่องมีรูปร่างที่โค้งมนและเป็นเงามัน โดยเราจะสังเกตได้ว่าตัวเครื่องมีความบางกว่า Notebook ในขนาดจอ 15 นิ้วทั่วไป

ดูจากด้่านหน้าตัวเครื่องนั้น จะสังเกตถึงความบางอย่างเห็นได้ชัด โดยด้านหน้าของตัวเครื่องนั้นจะไม่มี Port อะไรมาให้กวนใจเลยสักช่องเดียวแถมยังมีลำโพงไว้ด้านหน้าของตัวเครื่องอีก ด้วย

ด้านหลังของตัวเครื่องจะเป็นจุดรวมของ Port ต่าง ๆ เพื่อไช้สำหรับเชื่อมสัญญาณ (ออกแบบมาได้ดีจริง ๆ) ไม่ว่าจะเป็น USB (2ช่อง) , HDMI , VGA Port , LAN Port , ช่องรับสัญญาณไฟ ,ช่องหูฟังและไมค์โคโฟน

ด้านข้างซ้ายของตัวเครื่องเป็นในส่วนของสวิชต์เปิด/ปิด เพื่อรับสัญญาณ WiFi และ ช่องสำหรับเสียบ Card Reader + USB (1ช่อง) โดยจะมีฝาปิดด้านข้างของตัวเครื่อง

ด้านขวาของตัวเครื่องจะมี DVD Drive เป็นแบบดูด ทำให้เวลาใช้งานไม่ต้องมีลิ้นยืดออกมาจากตัวเครื่องให้เกะกะ

ด้านล่างของตัวเครื่องออกแบบมาดูเรียบมาก ๆ (เรียบไปป่าวเนี่ย o.O")
รายละเอียดของ ASUS UX50V

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.techxcite.com

Land Rover S1 มือถือสุดแกร่งสำหรับนักผจญภัย

Land Rover รถยนต์แนวออฟโร้ด ร่วมกับโทรศัพท์มือถือ Sonim ผลิต S1 โทรศัพท์มือถือเครื่องแรกภายใต้เครื่องหมายการค้าของ Land Rover โดยเป็นการนำเอาโทรศัพท์มือถือ Sonim XP3 มาติดตราสัญลักษณ์ใหม่ แต่คุณสมบัติยังคงเดิม โดยมีจุดเด่นในการรองรับการกระแทกของพื้นคอนกรีต จากการตกจากที่สูง 1.65 เมตร, รองรับแรงสั่นสะเทือนถึง 500Hz, ทนต่ออุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส ถึง +60 องศาเซลเซียส, ป้องกันฝุ่นละอองและคราบโคลน, จอแสดงผลป้องกันรอยขีดข่วน, แผงปุ่มกดผ่านการทดสอบว่าใช้งานได้ถึง 500,000 ครั้ง นอกจากนี้ตัวเครื่องยังสามารถทนอยู่ในน้ำลึก 1 เมตร ได้นานสูงสุด 30 นาที

Land Rover S1



Land Rover S1

Land Rover S1

Land Rover S1

Land Rover S1

บทความจาก Siamphone.com

Mobile Phone Catalog Online

Land Rover S1

Firefox 3.7 หน้าตาจะเป็นอย่างไร?

เนื่องจาก Firefox 3.5 ออกตัวไม่ค่อยสวยเท่าไร ทั้งอัตราเร็วในการดาวน์โหลด และช่องโหว่ที่พบอย่างรวดเร็ว ทีมนักพัฒนาใน Mozilla จึงต้องระดมสมองกันอย่างหนัก สำหรับแนวทางการพัฒนาใหม่ๆ ตลอดจนหน้าตาของ Firefox 3.7 ว่าควรจะออกมาเป็นอย่างไร? แม้การระดมสมองของทีมงานจะยังอยู่ ในระยะเริ่มต้น แต่ดูเหมือนทีมงานคงคิดว่า ผู้ใช้อาจจะเริ่มเบื่ออินเตอร์เฟซเดิมๆ ของไฟร์ฟอกซ์แล้ว ล่าสุดจึงมีการปล่อยตัวอย่างหน้าตาของ Firefox 3.7 ซึ่งดูน่าใช้มากๆ เลย สำหรับรายละเอียดของดีไซน์ในส่วนต่างๆ ที่ได้มีการเปิดเผยออกมามีดังนี้
Firefox 3.7
  1. Embracing Glass: ทูล บาร์ และแท็บใช้เอฟเฟ็กต์ Glass (แก้วใสปิ๊งแบบ Aero ของ Vista) จนมองเห็นแบ็คกราวด์ด้านหลังได้ ในขณะที่ปุ่มต่างๆ จะเล่นเงา และเข้ากับทูลบาร์ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้กราฟิกสามมิติยังทำให้รู้สึกราวกับว่ามันสัมผัสได้จริงๆ
  2. Page Button: ปุ่ม "Page" ที่เพิ่มเข้ามาตรงด้านซ้ายของแท็บจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงหน้าเว็บ ต่างๆ ที่ได้เข้าไปเยี่ยมชมแล้วได้โดยตรง (recent pages)
  3. Tools/Bookmark Bar: การ เชื่อมปุ่ม Tools เข้าไปที่ด้านข้างของหน้าต่าง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งส่วนติดต่อผู้ใช้ (UI) ได้อย่างง่ายดาย ส่วน Bookmarks Bars จะสามารถเปิดปิดใช้งานได้ โดยที่ดีฟอลต์มันจะถูกปิดไว้
Firefox 3.7
นอก จากปรับแต่งเพิ่มเติมข้างต้นแล้ว สิ่งหนึ่งที่คุณผู้อ่านอาจจะสังเกตเห็นเหมือนกันนั่นก็คือ การเอาเมนูบาร์ออกไป เนื่องจากเราจะไม่ค่อยได้ใช้งานมันบ่อยนัก อีกอย่างหนึ่งมันทำให้เราได้พื้นที่แสดงหน้าเว็บเพิ่มขึ้นกลับมาอีกด้วย ว่าแต่คุณผู้อ่านชอบไหมครับ

ข่าวจาก arip.co.th

Wednesday, July 22, 2009

ตะลึง!!! เน็ตบุ๊กรุ่นใหม่ใส่ยีนส์"ลีวายส์"?

นับวันเน็ตบุ๊กจะกลายเป็นสินค้าแฟชั่นมาก ขึ้นเรื่อยๆ จนดูเหมือนว่า คนให้ความสำคัญจุดนี้มากกว่าฟังก์ชันการทำงานเสียด้วยซ้ำ ล่าสุด LG ออกเน็ตบุ๊กรุ่นใหม่มา โดยจับมือกับยีนส์ยี่ห้อดังอย่าง Levi ออกเน็ตบุ๊กริมแดง???

X120 Mini เน็ตบุ๊กรุ่นใหม่ที่ LG เลือกดีไซน์ของยีนส์คลาสสิกอย่าง "ลีวายส์" มาทำเป็นลวดลายบนตัวเครื่อง โดยไม่ลืมที่จะติดริมแดงที่เป็นสัญลักษณ์ให้เห็นอย่างชัดเจนอีกด้วย นอกจากนี้ X120 Mini ยังมาพร้อมกับซองใส่ที่ใช้ผ้าตัดกางยีนส์ลีวายอีกเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่า สาวก หรือใครก็ตามที่มีหัวใจรักในลีวายส์ เมื่อได้เห็นคงปฏิเสธไม่ลงอย่างแน่นอน
ใน ส่วนของสเป็กเน้ตบุ๊กรุ่นนี้ ประกอบด้วยซีพียู Atom ของ Intel มาพร้อมกับหน่วยความจำ 1GB ฮาร์ดดิสก์ 160GB และหน้าจอสว่างคมชัดด้วย WSVGA LED Backlight ขนาด 10.1 นิ้ว สาวกลีวายส์ที่กำลังมองหาเน็ตบุ๊กที่เข้ากับตัวคุณ LG X120 Mini อาจจะเป็นคำตอบที่ลงตัวที่สุดสำหรับคุณ


ข่าวจาก arip.co.th

"ไอพอดทัช"รุ่นใหม่ถ่ายวิดีโอ-ฮัลโหลเน็ต

รายงานข่าวล่าสุด แหล่งข่าวจากเว็บไซต์ wired ยืนยันว่า iPod Touch รุ่นต่อไปจะมาพร้อมกับกล้องดิจิตอล และไมโครโฟน ซึ่งเป็นคุณสมบัติการทำงานที่ผู้ใช้ต้องการอย่างแน่นอน โดยมันจะทำให้ผู้ใช้สามารถบันทึกวิดีโอ และใช้บริการในลักษณะเดียวกันกับ Skype ได้อีกด้วย หลังจากทีมีข่าวลือออกมาก่อนหน้า นี้ว่า iPod Touch รุ่นใหม่จะมีกล้องดิจิตอล และไมโครโฟนติดมาด้วย ล่าสุดแหล่งข่าวยืนยันว่า Apple ได้ออกแบบให้ iPod Touch รุ่นใหม่สามารถบันทึกวิดีโอ และใช้ฮัลโหลออนไลน์แบบสไกป์โฟนได้ "แหล่งข่าว(ที่รู้จักกันดีกับเว็บไซต์ wired) ได้เปิดเผยว่า ข่าวลือดังกล่าวเป็นเรื่องจริง และโรงงานต่างๆ ของแอปเปิ้ลที่ตั้งอยู่ในจีนได้ผลิต iPod Touch รุ่นที่มาพร้อมกับกล้องดิจิตอล และไมโครโฟนเรียบร้อยแล้ว"
iPod Touch
นอก จากนี้ แหล่งข่าวยังบอกอีกด้วยว่า iPod Touch รุ่นใหม่มีกำหนดการวางตลาดในอีก 2 - 3 เดือนข้างหน้า ซึ่งผลของการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมเข้าไปในไอพอดทัชรุ่นใหม่นี้จะทำให้มัน กลายเป็นอุปกรณ์สื่อสาร VOIP ที่ทำให้ผู้ใช้ฮัลโหลผ่านเน็ตได้ทุกที่ที่มี Wi-Fi รวมถึงการถ่ายคลิปวิดีโอคุณภาพ เพื่ออัพโหลด และแชร์ให้ชาวโลกได้รับชมผ่าน YouTube ได้ทันที ได้แต่หวังว่า มันจะไม่ใช่ข่าวลือซ้ำสองอีกนะ

ข่าวจาก arip.co.th

Download: "ดูดคลิป-แปลงไฟล์"ได้เลย

หายไปพักใหญ่สำหรับคอลัมน์ Download วันนี้กลับมาเอาใจผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่เป็นนักสะสมคลิปวิดีโอที่สตรีมมิ่ง มาจากเว็บไซต์ดังๆ ซึ่งฟรีแวร์ที่นำมาฝากกันนี้ รับรองว่า ต้องเป็นที่ถูกใจชาวดูดคลิปริปไฟล์อย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะใช้ง่ายแล้ว มันยังแปลงไฟล์ที่ดูดมาให้ได้ในคราวเดียวอีกด้วย...ว้าว!!!
Tubemaster


เป็น ที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันผู้ใช้เน็ตความเร็วสูงส่วนใหญ่หันมานิยมรับชมสตรีม มิ่งวิดิโอ และออดิโอบนคอมพิวเตอร์กันอย่างแพร่หลาย โดยไฟล์วิดีโอและเสียงจะทะยอยส่งมาจากเว็บไซต์ให้บริการต่างๆ แต่ในบางครั้ง (หรือบ่อยครั้ง) ที่คุณอาจจะต้องการชมคลิป หรือฟังเสียง (เพลง,บรรเลง,พูด) อีกครั้ง หรือแม้แต่ก็อปปี้เก็บไว้ ซึ่งมีวิธีทำมากมาย แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องง่ายไปเสียทีเดียว
Tubemaster
การ บันทึกสตรีมมิ่งวิดีโอ และออดิโอจากอินเทอร์เน็ตด้วยซอฟต์แวร์ที่ใช้กันวันนี้ ส่วนใหญ่ผู้ใช้ทำแค่ก็อปปี้ URL ของคลิป หรือเว็บไซต์ แต่บ่อยครั้งที่พบว่า โปรแกรมที่มีอยู่ในเครื่องไม่สามารถเล่นไฟล์วิดีโอที่ดาวน์โหลดมาได้ Tubemaster++ เป็นฟรีแวร์ที่สามารถจัดการงานทุกอย่างในคราวเดียวได้โดยอัตโนมัติ ตั้งแต่ดูดคลิป(วิดีโอ และออดิโอ)ที่คุณกำลังเล่นจากเว็บไซต์ดังๆ อย่างเช่น YouTube, DailyMotion, MySpace, Google Videos, LastFM, Deezer, Jiwa, Songza ฯลฯ ไปจนถึงแปลง และจัดเก็บไฟล์ในฟอร์แมตที่คุณสามารถเล่นได้ด้วย Player ที่อยู่ในเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น AVI, MPEG, MP3, MP4, iPod, PSP และอีกเพียบ สุดยอด!!!

ข่าวจาก arip.co.th

MS ปิดบริการ Soapbox คู่แข่ง YouTube

เมื่อเดือนที่แล้ว ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ได้เปิดเผยว่า กำลังอยู่ในระหว่างการทบทวนกลยุทธ์ของ โซพบ็อกซ์ (Soapbox) บริการอัพโหลดวิดีโอที่สร้างจากผู้ใช้ (user-generated video uploading service) ซึ่งล่าสุด ผู้บริหารของทางบริษัทกล่าวว่า ได้ตัดสินใจปิดบริการดังกล่าวแล้ว Erik Jorgensen ผู้บริหารไมโครซอฟท์กล่าวว่า "ทางบริษัทจะเพิ่มฟังก์ชันการทำงานของ Soapbox เข้าไปในเว็บไซต์ MSN Video แทน เพื่อเปิดโอกาสให้บล็อกเกอร์ และนักข่าวภาคประชาชนได้อัพโหลด และแชร์คอนเท็นต์ให้กับผู้ใช้ MSN ได้รับชม"


Soapbox เป็นบริการที่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถอัพโหลด และแชร์วิดีโอได้ฟรี โดยไมโครซอฟท์ได้เปิดให้บริการมากว่าสามปีแล้ว หลังจากตัดสินใจไม่ใช้วิธีซื้อเว็บไซต์อัพโหลดวิดีโอของเจ้าอื่น อย่างไรก็ตาม ผลปรากฎว่า บริการดังกล่าวไม่มีวี่แววว่าจะวิ่งไล่ตามผู้นำในตลาดได้ทันแม้แต่น้อย โดยมันมีแทรฟฟิกต่ำกว่า 5% ของแทรฟฟิกทั้งหมดในบริการ MSN Video เสียด้วยซ้ำ อีกทั้งผู้ลงโฆษณาส่วนใหญ่พอใจที่จะใส่โฆษณาของตนเข้าไปในคอน เท็นต์วิดีโอที่สร้างโดยมืออาชีพมากกว่าคลิปผู้ใช้ทั่วไป Jorgensen ย้ำว่า อย่างไรก็ตาม MSN จะยังคงให้บริการวิดีโอต่อไป สำหรับกำหนดการปิดบริการ Soapbox จะเป็นวันที่ 31 สิงหาคม ศกนี้

ข่าวจาก arip.co.th

Yahoo ปรับโฮมเพจใหม่เอาใจผู้ใช้สุดๆ

ในที่สุด ยาฮู (Yahoo) เสิร์ชเอ็นจิ้นยักษ์ใหญ่ก็ได้เผยโฉมโฮมเพจใหม่สักที หลังจากที่ใช้ดีไซน์ปัจจุบันมานานกว่าสามปีแล้ว โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทางบริษัทเปิดเผยว่า ได้ใช้เวลาหลายปีในการออกแบบโฮมเพจใหม่ที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้มาก ขึ้น โดยเฉพาะความสามารถในการปรับแต่งแปลงโฉมบริการต่างๆ ได้ตามต้องการ โฮมเพจล่าสุดของยาฮู ได้รับการออกแบบโดยมีเป้าหมายที่จะช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด (บางส่วน) คืนกลับมาจากกูเกิ้ล (Google) ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์กล่าวว่า การออกแบบโฮเพจใหม่นี้น่าจะมีจุดเริ่มต้นมาจากการเจรจาข้อตกลงทางธุรกิจกับ ไมโครซอฟท์ (Microsoft) และ Bing เสิร์ชเอ็นจิ้นน้องใหม่ สำหรับการเชื่อมโยงคุณสมบัติการค้นหา และการสร้างรายได้จากโฆษณาออนไลน์ร่วมกันในอนาคต

ผู้ บริหารของ Yahoo กล่าวว่า โฮมเพจใหม่จะทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต และลิงค์ทื่เชื่อมโยงไปยังคุณสมบัติการทำงาน และบริการต่างๆ ได้มากขึ้น ในขณะเดียวกัน Yahoo ยังคงเป็นเครื่องมือค้นหาที่มาพร้อมกับการเป็นไซต์ข่าว และแหล่งร่วมข้อมูล ตลอดจนบริการ และแอพพลิเคชันต่างๆ โดยในหน้าค้นหาจะมีคุณสมบัติการทำงานใหม่ที่เรียกว่า dashboard ที่ประกอบด้วยกรอบพื้นที่"พรีวิว"แนะนำบริการต่างๆ ของ Yahoo เอง อย่างเช่น Yahoo Autos, Finance, Yahoo Mail และ Messenger รวมถึงบริการจากเว็บไซต์พันธมิตรอย่างเช่น Facebook, Gmail (?) หรือ eBay เป็นต้น
ผู้ ใช้ Yahoo จะสามารถเลือกแอพพลิเคชันที่ชื่นชอบ อย่างเช่น แอพฯจาก eBay, Forbs.com และ Wired.com จากแท็บ My Favorites ซึ่งมีแอพฯ จากที่ต่างๆ ให้เรียกใช้มากกว่า 65 ตัวด้วยกัน ในขณะที่ยังคงสามารถเพิ่มแอพฯใหม่ๆ ที่ไม่ปรากฎอยู่ในรายการเข้าไปได้อีกด้วย ในส่วนของคุณสมบัติอื่นๆ ก็จะเป็นการเพิ่มความสามารถในการปรับแต่งการทำงานเฉพาะผู้ใช้แต่ละราย อย่างเช่น การฟีดข่าว และการอัพเดตสถานะจากเว็บไซต์เครือข่ายสังคม (Social Networks) โดยเฉพาะ Facebook และ MySpace ตลอดจนความสามารถในการปรับแต่งเพิ่มเติมคอลัมน์ "10 อันดับเรื่องค้นหายอดนิยม" ส่วนบริเวณกลางหน้าเว็บจะยังคงเป็นพาดหัวข่าวล่าสุด ตามด้วยคอลัมน์ไลฟ์สไตล์เกี่ยวกับอาหาร แฟชั่น และคนดัง
ผู้บริหาร Yahoo กล่าวว่า โฮมเพจใหม่ (ภายในเรียกว่า Metro) ให้บริการแล้ว ในลักษณะทีเป็นทางเลือกสำหรับทดลองใช้ไปก่อน โดยเข้าไปที่ yahoo.com/trynew ส่วนโฮมเพจสำหรับประเทศฝรั่งเศษ, อินเดีย และสหราชอณาจักรจะเปิดให้บริการช่วงปลายสัปดาห์นี้ และที่ขาดไม่ได้คือ เวอร์ชันบนมือถือก็จะตามมาในสัปดาห์หน้าอีกด้วย นอกจากนี้ ทาง Yahoo ยังกล่าวอีกด้วยว่า หน้าค้นหา (search) ใหม่จะใช้งานง่ายกว่า อีกทั้งยังเชื่อมโยงกับเดสก์ทอปพีซี และมือถือของผู้ใช้ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งตั้งค่าการทำงานเพียงครั้งเดียว ก็จะได้ใช้บริการที่ชื่นชอบที่เหมือนกันบนทุกอปุกรณ์



ข่าวจาก arip.co.th

สังเวยชีพเหตุต้นแบบ iPhone 4G หาย

iPhone 4G
ข่าวเศร้าเช้านี้ สื่อในจีนรายงานว่า Sun Danyong วิศวกรหนุ่มวัย 25 ปีตัดสินใจฆ่าตัวตาย หลังจากต้นแบบ iPhone 4G ที่ตนต้องรับผิดชอบในการจัดส่งจาก Foxconn บริษัทต้นสังกัดที่ทำงานอยู่ไปยัง Apple ได้อันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย...

หนุ่มวิศวกรชาวจีนรายนี้ทำงานอยู่ใน Foxconn ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ใหืกับแบรนด์ใหญ่ๆ จากประเทศในฝั่งตะวันตกหลายเจ้าด้วยกัน รวมถึง Apple ด้วย โดยเขาได้รับหน้าที่ในการจัดส่งต้นแบบผลิตภัณฑ์ระหว่างสองบริษัท แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้น เมื่อต้นแบบทั้งหมดได้หายไปในระหว่างทาง

โดยในวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา Danyong ได้

รับต้นแบบ iPhone 4G จำนวน 16 เครื่องจากโรงงานผลิตในจีน หลังจากนั้นแค่สองสามวัน เขาก็พบว่า ต้นแบบที่รับมาหายไปหนึ่งเครื่อง เขาจึงรีบค้นหาว่ามันหายไปไหน อีกทั้งยังได้แจ้งให้ผู้จัดการของเขาทราบ

ว่ามีการสูญหายของเครื่องต้นแบบใน วันที่ 13 กรกฎาคม จากนั้นในวันที่ 15 ที่ผ่านมา พนักงาน 3 คนของ Foxconn ได้เข้าไปตรวจค้นในอพาร์ทเมนต์ของเขา ทั้งนี้มีรายงานว่า พนักงานบางคนอ้าง Danyong ถูกกักขังตัวไว้ และโดนทำร้ายร่างกาย ซึ่งในวันถัดมาหลังจากมีการเข้าตรวจค้น กล้องวิดีโอในอพาร์ทเมนต์สามารถบันทึกภาพการฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดออกจาก หน้าต่างลงไปด้านล่าง

หลาย คนทราบดีว่า Apple ให้ความสำคัญในเรื่องของการรักษาความลับของผลิตภัณฑ์ใหม่มากที่สุด ดังนั้นความสัมพันธ์ทางธุรกิจของ Foxconn กับ Apple คงขาดสะบั้นอย่างแน่นอน หากต้นแบบหลุดออกไป ซึ่งสำหรับเครื่องต้นแบบ iPhone 4G ที่หายไปนั้น ทางบริษัทแจ้งว่า ยังหาไม่พบ!!!

อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายได้ออกมาให้ความเห็นว่า มันเป็นการยากเหลือเกินที่จะเชื่อว่า ต้นแบบของผลิตภัณฑ์จะสำคัญมากขนาดถึงกับต้องสังเวยชีวิตของคนหนึ่งคน ถ้อยแถลงของ Foxconn ที่ออกมาจากฝ่ายรักษาความปลอดภัยส่วนกลางใช้คำว่า มันอาจเกิดจากการสอบสวนด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสม ว่าแต่งานนี้ทาง Apple จะให้ความเห็นว่าอย่างไร?

ข่าวจาก arip.co.th


Tuesday, July 21, 2009

กระทรวงวัฒฯ สั่งปรับเวลาเล่นเกม ยกเลิกกฎเหล็ก 3 ชั่วโมง เริ่ม ส.ค.นี้

เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา นายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยว่า "ขณะนี้คณะกรรมการกฤษฎีกา ได้พิจารณาร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการอนุญาต และการประกอบกิจการร้านวีดิทัศน์ พ.ศ... และร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ในการกำหนดประเภทภาพยนตร์ พ.ศ... ประกอบ พ.ร.บ.ภาพยนตร์ และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 เสร็จเรียบร้อยแล้ว" และเตรียมที่จะยื่นเข้าที่ประชุมครม. ในวันนี้


ในส่วนของร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการอนุญาตและการประกอบกิจการร้านวีดิทัศน์ กฤษฎีกาได้มีการปรับแก้ไขข้อความ หมวดที่ 2 การประกอบกิจการร้านวีดิทัศน์ในส่วนของเวลาการเล่นเกมของเด็ก โดยได้ตัดเนื้อหาเรื่องการอนุญาตไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เล่นเกมเกิน 3 ชั่วโมงต่อวันออก และได้มีการแก้ไขใหม่ดังนี้
1.ให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เข้าใช้บริการได้ตั้งแต่เวลา 14.00 น. แต่ไม่เกิน 20.00 น.ในวันจันทร์ถึงวันศุกร์ และตั้งแต่เวลา 10.00 น.แต่ไม่เกิน 20.00 น.ในวันหยุดราชการ หรือในระหว่างปิดภาคการศึกษาตามระยะเวลาที่นายทะเบียนกลางประกาศกำหนด

2.ให้เด็กอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 18 ปี เข้าใช้บริการได้ตั้งแต่เวลา 14.00 น.แต่ไม่เกิน 22.00 น.ในวันจันทร์ถึงวันศุกร์ และตั้งแต่เวลา 10.00 น.แต่ไม่เกิน 22.00 น.ในวันหยุดราชการ หรือในระหว่างปิดภาคการศึกษาตามระยะเวลาที่นายทะเบียนกลางประกาศกำหนด
ซึ่งกฎกระทรวงทั้ง 2 ฉบับจะมีผลบังคับใช้ในต้นเดือน ส.ค.นี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ ทางกระทรวงวัฒนธรรมก็ยังคงเข้มงวดและตรวจร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ตให้ปฏิบัติตามกฎกระทรวงอย่างเคร่งครัด และถ้าหากพบร้านที่ไม่ปฏิบัติตามก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที
จากข่าวข้างต้นนี้ อาจจะเป็นตัวบ่งชี้ให้เราเห็นได้ว่า กระทรวงวัฒนธรรมเองก็เข้าใจและมองเห็นถึงความสำคัญของเกม ว่าจริงๆ แล้ว "เกม" ยังช่วยพัฒนาให้เด็กๆ รู้จักคิดและยังช่วยพัฒนาความสามารถได้อีกด้วย ใช่ว่าจะมีเพียงด้านลบเพียงอย่างเดียวเท่านั้น พร้อมกันนี้ยังได้มีการจัดนิทรรศการเกมดี ในงาน Thailand Game Show 2009 เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา และในวันศุกร์-เสาร์ที่ 24-25 กรกฏาคมนี้ ก็จะมี "นิทรรศการเกมดี สัญจร" ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ด้วย ใครที่อยู่ใกล้ๆ ก็อย่าลืมแวะไปชมกันได้นะครับ
ข่าวจาก compgamer.com

YouTube 3D เล่นคลิป"ทะลุจอ"

กูเกิ้ล (Google) จะให้เวลากับพนักงานที่มีโครงการดีๆ มานำเสนอ 20% ต่อสัปดาห์ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการของกูเกิ้ล ล่าสุดพนักงานคนหนึ่ง อยากทำ YouTube สามารถเล่นวิดีโอสามมิติ 3D ทะลุจอ อืม...คิดไปได้ เมื่อวานนี้ ทางเว็บไซต์เอ.อาร์.ไอ.พีได้แนะนำคลิปวิดีโอตัวอย่างที่ใช้เว็บแคม minuro ในการทำคลิปสามมิติ และอัพโหลดขึ้นไปบน YouTube ให้ได้ชมกัน แต่โปรเจกต์ที่นำมาเล่าสู่กันฟังวันนี้ เป็นของพนักงานที่ใช้ชื่อว่า "YouTubePete" ซึ่งโพสต์ไว้ใน YouTube forum thread ว่า เขากำลังพัฒนา Stereoscopic Player (โปรแกรมเล่นวิดีโอทีใช้เทคนิคการสร้างภาพสามมิติ) สำหรับ YouTube โดยใช้เวลา 20% ของการทำงานใน Google โดยคลิปที่เล่นบน Player จะแสดงผลในโหมด 3D ที่สามารถเห็นเป็นภาพทะลุจอออกมา เมื่อมองผ่านแว่นตา 3D


คุณผู้อ่านสามารถชมตัวอย่างคลิปวิดีโอ 3 มิติ ที่มีสองสีซ้อนทับกัน พร้อมเมนูดรอปดาวน์ เพื่อเลือกโหมดการแสดงผลในฟอร์แมตต่างๆ ที่อยู่ด้านล่างขวา (ดังรูปข้างบนนี้) Pete ย้ำว่า มันเป็นแค่โครงการเล็กๆ ที่เขาอยากทำ และไม่ได้เป็นแผนของทางบริษัท แต่ถ้าผู้ใช้มีคำแนะนำอะไร เขาก็ยินดีที่จะนำมาปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของ Player ตัวนี้ต่อไป ในรายละเอียดของวิธีทำสามารถเข้าไปดูได้ที่ YouTube Help (อย่า สงสัยนะครับที่เห็นคลิปข้างล่างไม่แสดงผลเป็น 3D แต่เป็นคลิปต้นฉบับที่แบ่งเป็นสองจอสำหรับตาซ้ายและตาขวาไว้ให้ Player จัดการอีกทีหนึ่ง)

ข่าวจาก arip.co.th


แนะนำที่ชม"สุริยุปราคา"ออนไลน์

พรุ่งนี้แล้ว ที่คนทั่วโลกจะพยายามแหงนมองดูพระอาทิตย์ที่ถูกบดบังรัศมีจากดวงจันทร์ ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ที่รู้จักกันดีนั่นก็คือ "สริยุปราคา" หรือ "สุริยคราส" (eclipse) โดยผู้เชี่ยวชาญแนะนำสำหรับผู้ที่อยากเห็นปรากฎการณ์ดังกล่าวว่า อย่ามองด้วยตาเปล่า เพราะอันตรายมากๆ อาจทำให้ตาบอดได้ อาจใช้กระจกรมควันสองแผ่น หรือแผ่นซีดีสองแผ่นซ้อนทับกัน ก่อนมองลอดผ่านไป และควรมองเฉพาะตอนมันซ้อนทับกันเต็มดวงประมาณ 3 - 5 วินาทีเท่านั้น นอกจากวิธีนี้ ทางเว็บไซต์ เอ.อาร์.ไอ.พียังมีมาฝากอีกวิธีหนึ่งนั่นคือ การรับชมสุริยุปราคาผ่านทางออนไลน์



สำหรับปรากฎการณ์สุริยุปราคาที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 22 กรกฎาคม 2009 ตามเวลาในบ้านเราจะเริ่มตั้งแต่ประมาณ 7.07 น.ไปจนถึง 9.00 น. ซึ่งถือเป็นครั้งที่เกิดนานที่สุด ทั้งนี้เงาของดวงจันทร์จะตกทาบลงมาบนโลกในช่วงเวลาดังกล่าว (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด) นอกจากการเฝ้าดูปรากฎการณ์ผ่านแผ่นซีดี(สองแผ่นซ้อนกัน)ในช่วงเวลาที่เกิด แล้ว อีกช่องทางหนึ่งที่คุณผู้อ่านสามารถติดตามปรากฎการณ์นี้ได้ก็คือ การรับชมผ่านเว็บไซต์ 4 แห่งด้วยกัน ดังนี้
นอก จากประเด็นของการเฝ้าชมปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นจะได้รับความสนใจอย่างกว้าง ขวางแล้ว ในจีนยังจะได้มีการทดลองเกี่ยวกับแรงดึงดูดของโลกที่จะเกิดการเปลียนแปลงใน ช่วงเวลาดังกล่าวอีกด้วย ส่วนผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรนั้น คงต้องติดตามกันต่อไปครับ

ข่าวจาก arip.co.th

BN ท้าชน Amazon ในสมรภูมิ"อีบุ๊ก"

Barnes & Noble (BN) ร้านหนังสือทีเคยเพี่ยงพล้ำต่อ Amazon เมื่อครั้งที่เปิดเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซให้บริการในภายหลัง แต่ไม่ทันเสียแล้ว ล่าสุด BN ออกมาไล่ตาม Amazon อีกครั้งด้วยการเปิดร้านจำหน่ายอีบุ๊กที่ทางบริษัทอ้างว่า ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีอีบุ๊กให้บริการมากกว่าถึง 700,000 ไตเติ้ล ยิ่งไปกว่านั้น BN ยังได้จับมือกับ Plastic Logic บริษัทผู้ผลิตเครื่องอ่านอีบุ๊ก เพื่อชน Kindle ของ Amazon อีกด้วย ทาง BN กล่าวว่า อีบุ๊กที่จำหน่ายใน้ร้านจะมีความเข้ากันได้กับเครื่องอ่านอีบุ๊กในท้องตลาด หลายรุ่นรวมถึง iPhone และ iPod Touch สมาร์ทโฟน Blackberry และคอมพิวเตอร์ที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows และ Mac OS ทั้งนีั้อีบุ๊กที่ให้บริการในร้านจะมีมากกว่า 700,000 ไตเติ้ล (Amazon มีประมาณ 300,000 ไตเติ้ล) ซึ่งจะมีหนังสือที่ขายดีที่สุดหลายร้อยรายการที่จำหน่ายในราคา เพียงไตเติลละ 9.99 เหรียญฯ (ประมาณ 360 บาท)เท่านั้น แถมยังคุยอีกด้วยว่า ในปีหน้าจำนวนไตเติ้ลของอีบุ๊กในร้านจะเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 1,000,000 ไตเติลอย่างแน่นอน "(บริการของเรา)ครอบคลุมอีบุ๊กจากทุกสำนักพิมพ์หนังสือเล่มที่มีอยู่ และทุกไตเติลที่มีต้นฉบับเป็นอีบุ๊กอยู่แล้ว" ทางบริษัทกล่าว


สำ หรับอีบุ๊กที่อยู่ในสต๊อกมากกว่า 500,000 ไตเติ้ลจะเป็นหนังสือที่เผยแพร่ได้ในลักษณะที่เป็นสาธารณสมบัติจาก Google ซึ่งสามารถดาวน์โหลดไปอ่านได้ฟรี BN ได้ใช้แอพพลิเคชัน eReader เวอร์ชันอัพเกรดที่พัฒนาโดยบริษัท Fictionwise ที่ซื้อมาเมื่อต้นปี โดยแอพฯดังกล่าวจะมีเวอร์ชันบน iPhone และ Blackberry เช่นเดียวกับเวอร์ชันที่สามารถรันบนคอมพิวเตอร์ที่ใช้โอเอสเป็น Windows และ Mac ผู้ใช้ eReader ในครั้งแรกสามารถดาวน์โหลดอีบุ๊กฟรี โดยรวมถึงไตเติ้ลอย่าง Pocket Dictionary ของ Merriam-Webster, Sense and Sensibility, Little Woman, Last of Mohicans, Pride and Prejudice และ Dracula
นอก จากในส่วนของร้านจำหน่ายอีบุ๊ก และแอพพลิเคชัน eReader แล้ว BN ยังได้แนะนำเครื่องอ่านอีบุ๊กที่จะใช้ต่อกรกลับ Kindle ของ Amazon ด้วย โดยทางบริษัทจะทำให้หน้าร้านอีบุ๊กทำงานเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับ eReader เครื่องอ่านอีบุ๊กของ Plastic Logic ราย เดียวเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะวางตลาดเครื่องอ่านได้ในต้นปี 2010 จุดเด่นของ eReader ที่เป็นฮาร์ดแวร์ก็คือ มันมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ถึง 8.5 x 11 นิ้ว (เคยนำออกแสดงในปลายปี 2008) บางแค่ 0.27 นิ้ว และเบามาก อีกทั้งหน้าจอยังทำงานในระบบสัมผัสอีกด้วย ส่วนเทคโนโลยีที่ใช้ในการแสดงผล ยังคงเป็นอีอิงค์เช่นเดียวกับ Kindle อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยเรื่องของราคาเครื่องอ่านออกมาแต่อย่างใด



ข่าวจาก arip.co.th

Toshiba เปิดตัว Notebook รุ่นใหม่ที่ดูล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีการใช้งาน

ออกแบบมาโดยเน้นดีไซน์และความสะดวกในการพกพาซึ่งในปัจจจุบันเราจะเห็นได้ว่า ระบบเครือข่ายไร้สาย การพกพาไปใช้ข้างนอกสถานที่นั้นเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำกัน

Toshiba เปิดตัว Notebook รุ่นใหม่ล่าสุด เน้นการดีไซด์และการพกพาเป็นหลัก

สวัสดีครับพี่น้องชาว Techxcite ทุก ๆ ท่านเจอกับผมนาย Zaddman นักข่าวหัวเห็ดประจำ TechXcite ในคราวนี้ผมจะพาเพื่อน ๆ ไปดูบรรยากาศงานแถลงข่าวการเปิดตัว Notebook รุ่นล่าสุดของ Toshiba ที่เขาออกแบบมาโดยเน้นดีไซน์และความสะดวกในการพกพาซึ่งในปัจจจุบันเราจะเห็น ได้ว่า ระบบเครือข่ายไร้สาย การพกพาไปใช้ข้างนอกสถานที่นั้นเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำกัน แน่นอนการออกแบบ Notebook ในยุคหลัง ๆ จะเห็นได้มีขนาดเล็กและเบาพกพาไปไหนได้สะดวก รวมถึงดีไซด์ที่สามารถเข้าถึงตลาดและตอบสนอความต้องการได้ทุกไลฟ์สไตส์ โดยทาง Toshiba ได้เปิดตัว Notebook รุ่นใหม่ด้วยกันถึง 3 รุ่น ได้แก่ PORTEGE M900 (Signature Series) , Satelite M500 และ Satellte L510

บรรยากาศภายในงาน

งานนี้จัดขึ้นที่โรงแรม Siam@Siam โดยบรรยกาศของงานจะออกแนวอารมณ์ปาร์ตี้สบาย ๆ พร้อมด้วยการโชว์ Notebok คู่ไปกับความหรูในตัวงานโดยในครั้งนี้ทาง Toshiba ได้นำ Notebook มาโชว์ในตัวงานให้ทางผู้สื่อข่าวได้ลองสัมผัสถึงดีไซด์การออกแบบที่เป็นการ พิมพิ์ลวดลายลงไปในตัวเนื้อสีของตัวเครื่อง ทำให้เกิดเป็นดีไซด์ที่ไม่ซ้ำแบบใครในวงการ Notebook ถือได้ว่าเป็นการฉีกแนวการออกแบบไปอีกทางหนึ่ง

รายละเอียด TOSHIBA PORTEGE M900

รายละเอียด TOSHIBA Satellite M500

รายละเอียด TOSHIBA Satellite L510

บทสรุปของงานเปิดตัว Notebook Toshiba

หลังจากที่ได้เดินไปเล่น Notebook ทั้ง 3 รุ่น ผมก็สังเกตได้อย่างหนึ่งว่า แต่ก่อน Toshiba นั้นจะออกแบบ Notebook ที่ดูแล้วยังคงลักษณะที่ไม่ได้เน้นดีไซด์อะไรเท่าไร มาจนตอนนี้ Toshiba ได้มีการออกแบบตัวเครื่องทำให้ภาพลักษณ์ของ Notebook Toshiba ไม่ได้ซ้ำซากจำเจเหมือนแต่ก่อน รวมไปถึงคุณสมบัติของ Hardwareที่มีประสิทธิภาพและมาพร้อมกับการดีไซด์ตัวเครื่อง ที่เราสามารถพกพาไปใช้ข้างนอกได้อย่างสะดวกสบาย และดูมีสไตส์มากขึ้น คิดว่าสำหรับผู้ที่ชื่อชอบ Notebook ที่เน้นดีไซด์และขนาดที่พกพาไปไหนได้แล้วนั้น คิดว่า Notebook Toshiba ทั้ง 3 รุ่นนี้ น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีให้กับผู้ใช้งาน Notebook ในปัจจุบัน

ข่าวจาก http://technology.impaqmsn.com/